Friday, 17 May 2024

น้องวีน จนจริง มีหลักฐานยืนยัน คณบดีคณะแพทย์ มอ.ยืนยัน ไม่ปิดกั้นโอกาสเข้าเรียนต่อ

วันที่ 25 เดือนมกราคม 66 รศ.นพ.เรืองศักดิ์ ลีธนาภรณ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อธิบายกรณีนายกันตภณ เต่าจันทร์ หรือน้องวีน อายุ 18 ปี เด็กนักเรียนชั้น ม.6 จังหวัดพัทลุง ที่ผ่านการทดสอบรอบพิเศษ เข้าศึกษาต่อที่คณะแพทย์ศาสตร์ รวมทั้งได้ออกมาเปิดบัญชีรับบริจาค หาเงินเรียนแพทย์ ก่อนถูกโซเชียลเปิดเผยว่า “จนทิพย์”

โดย รองศาสตราจารย์นพ.เรืองศักดิ์ ระบุว่า ต้องแยกเป็นหลักสำคัญไป โดยประเด็นการสอบเด็กสอบได้จริง มาจากความรู้ความสามารถ และผ่านการทดสอบมาตามขั้นตอน ไม่ได้ลัดขั้นตอนอะไรก็แล้วแต่ทั้งสิ้น นับว่าเป็นผู้มีความรู้และความเข้าใจที่จะเข้ามาเป็นนักศึกษาแพทย์ได้

จนทิพย์
ส่วนประเด็นเรื่องจนจริง จนทิพย์ หรือไม่นั้น จะต้องกล่าวว่า “จนจริง”

ไม่ได้แค่อ่าน หรือฟังคำบอกเล่าของผู้ใดมา แต่ทางคณะแพทยศาสตร์ ได้ส่งกลุ่มอาจารย์ลงพื้นที่ไปพบกับเด็ก แล้วก็ครอบครัว และก็ถามจากญาติ คนใกล้ชิด และผู้ที่มีความเกี่ยวข้องในพื้นที่ ซึ่งมีข้อมูลหลักฐานยืนยันได้ว่า ครอบคัวของน้องวีน ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และถ้าจะต้องมาเรียนหมอ ก็น่าจะไม่มีกำลังทรัพย์ที่เพียงพอ

ส่วนเรื่องการเปิดรับบริจาคนั้น ไม่น่าจะเป็นประเด็น ที่จะไม่รับเข้าศึกษาต่อแต่อย่างใด ซึ่งน้องวีนรวมทั้งครอบครัว เมื่อรู้ว่าสอบได้ก็ดีใจมาก แล้วก็เชื่อว่าเมื่อทราบว่าจะต้องเรียนแพทย์ จึงมีความกังวลใจเรื่องค่าใช้จ่าย โดยพยายามขวนขวาย หาหนทาง ซึ่งสิ่งที่ทำก็ไม่ได้ เป็นการโกหกหลอกลวง แล้วก็สิ่งที่น้องวีน และครอบครัวพูดก็เป็นความจริง

ในตอนที่ในเรื่องเงินทุนการศึกษานั้น ทางคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มีบุคลากร แล้วก็หน่วยงานด้านนอก ที่รอสนับสนุนทุการศึกษา ให้กับนักศึกษาแพทย์ตั้งแต่ปี 1-ปี 6 อีกทั้งยังมีทุนสำหรับการศึกษา จากมูลนิธิโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อีกส่วนหนึ่งมอบ ที่จะมอบให้กับนักศึกษาที่เรียนดี ประพฤติดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ด้วย ซึ่งกรณีของน้องวีน หรือนักศึกษาคนอื่นๆ ที่มีปัญหาเรื่องค่าเรียนนั้น ทางคณะแพทยศาสตร์ มีขบวนการที่จะเข้าไปช่วยเหลือ นักศึกษาเหล่านี้อยู่แล้ว

จากข้อมูลล่าสุด ที่ได้ส่งทีมอาจารย์เข้าพบน้องวีน และครอบครัว ที่บ้านพักนั้น คาดว่า น้องวีน คงจะมาเข้าศึกษาต่อที่คณะแพทย์ ซึ่งน้องมีความมุ่งมั่นตั้งใจ ที่จะเรียนมาตั้งแต่ต้น รวมทั้งคาดว่า น้องวีน คงจะไม่ล้มเลิกความตั้งอกตั้งใจนี้

สำหรับการันตีสิทธิ์เข้าศึกษาต่อที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จะมีขึ้นในวันที่ 7-8 ก.พ. และจะมีการพิจารณากับประกาศผล คนที่ได้รับการคัดเลือด เข้าศึกษาต่อในวันที่ 11 ก.พ.นี้

ครอบครัว จนทิพย์
ลือลั่น มอ. ตัดสิทธิ์ “น้องวีน จนทิพย์” ไม่ให้เรียนหมอ ล่าสุดทางมหาวิทยาลัยตอบแล้ว

ภายหลังที่ก่อนหน้าที่ผ่านมา เพจ “อีซ้อขยี้ข่าว2” ได้ออกมาโพสต์ใจความ อัปเดตความคืบหน้ากรณีครอบครัวของ “น้องวีน จนทิพย์” นักเรียนผู้ชายที่สอบติดคณะแพทยศาสตร์ ที่ออกมาเปิดบัญชี รับบริจาคหาเงินเรียนแพทย์ ก่อนถูกโซเชียลเปิดเผยว่า ไม่ได้จนจริง ทั้งแม่ที่ใช้ของแบรนด์เนมเป็นประจำ และลูกที่ใช้ของแพง ๆ ทั้งสมาร์ทโฟน และนาฬิการาคาแพง โดยทางเพจอัปเดตว่า ทางครอบครัวพึ่งปิดบัญชี รับบริจาคตอนวันที่ 18 ที่ผ่านมานี้ รวมทั้งยังบอกอีกว่า ฝากสื่อ-นักข่าวตามด้วย ม.สงขลาฯ เหมือนจะไม่รับ น้อง..จนทิพย์เข้าเรียนในคณะแพทย์แล้ว

ล่าสุด คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้กล่าวมาว่า นักเรียนชายคนดังกล่าว ผ่านการทดสอบรอบพิเศษของนักเรียนภายใน จ.พัทลุง และก็เป็นโครงการพิเศษ ห้วยยอดโมเดลที่เริ่มมาแล้วระยะหนึ่ง ซึ่งเป็นโครงการปฏิรูปการศึกษา ของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่จะสร้างแพทย์จากคนในพื้นที่ ที่รู้ปัญหาด้านสุขภาพของคนบ้านเดียวกัน แต่ว่าในขณะนี้ ยังไม่มีการตัดสิทธิ์ใดๆ ด้วยเหตุว่าอยู่ในขั้นตอนที่ เด็กจะต้องทำการยืนยันสิทธิ เข้าศึกษาต่อที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในวันที่ 7-8 กุมภาพันธ์ และจะมีการพิจารณาพร้อมกับ ประกาศผลผู้ที่ได้รับการคัดเลือด เข้าศึกษาต่อในวันที่ 11 ก.พ.นี้

ล่าสุดเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ทางคณะฯ ได้นัดคุยเด็กแล้ว แต่ว่าไม่สามารถเผยรายละเอียดได้ อย่างไรก็แล้วแต่ คณะแพทยศาสตร์ ไม่สามารถปฏิเสธสิทธิการรับเข้าศึกษาของเด็กได้

 

ก่อนหน้านี้ สาวช่วยครอบครัวเด็ก 18 ติดแพทย์ แฉจนทิพย์อ้างแม่ใส่ทอง เที่ยวผับ

สาวโพสต์เฟซบุ๊ก ระบายความในใจ บอกเสียความรู้สึก หลังแม่เด็ก 18 สอบติดแพทย์ ไม่ยอมแจงเงินบริจาค บอกได้เงินแล้ว จบ! คาดตุ๋นทุกคนจนเปื่อย จากกรณีนักเรียนชายวัย 18 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางครอบครัวแจ้งว่า น้องสอบคัดเลือกเป็นนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา แต่มีปัญหาเรื่องทุนสำหรับการศึกษา กับเปิดรับบริจาค ก่อนจะออกมาประกาศขอบคุณ ผู้ใจบุญ กับปิดรับบริจาคเงินไป โดยมีตัวแทนจากมูลนิธิแห่งหนึ่ง แจ้งความประสงค์ดูแลเรื่องทุนเพื่อการศึกษาของน้องจนจบการศึกษา

แต่แล้วชาวเน็ต ได้มีการแชร์ภาพจาก เฟซบุ๊กเพจหนึ่ง อ้างว่าเป็นภาพของน้องในช่วงเวลาที่ ถือโทรศัพท์ไอโฟน 12 Pro Max ใส่นาฬิกา Apple Watch พร้อมด้วยตั้งคำถามว่า ใช้สิ่งมีราคาขนาดนี้ จะมาขอรับบริจาคเพราะเหตุใด หรือเพราะอะไรไม่ไปกู้ กยศ.

กระทั่งต่อมา มีตัวแทนจากครอบครัวของน้อง ออกมาชี้แจง ถึงยอดเงินบริจาคว่า เท่าที่ทราบ เงินผ่านบัญชีมีประมาณ 8 แสนบาทเศษ ส่วนของราคาแพง ที่น้องใช้นั้น แม่ก็ยังผ่อนอยู่ เพราะอยากให้น้องมีอุปกรณ์ที่นำสมัย เพื่อใช้สำหรับเพื่อการร่ำเรียน หาความรู้ด้วยตัวเอง ดังที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น