Saturday, 27 July 2024

“BMW i Vision Dee” ต้นแบบซีรี่ย์ 3 ขุมพลังไฟฟ้าพร้อมตัวถังเปลี่ยนสีได้ถึง 32 สี

BMW ซีรี่ย์3 เผยโฉมรถต้นแบบ BMW i Vision Dee ครั้งแรกในโลกที่งาน Consumer Electronics Show (CES) 2023 ที่เมืองลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยคาดว่า เป็นเวอร์ชันต้นแบบของ “ซีรี่ย์ 3” เจเนอเรชันถัดไป ที่มาพร้อม ขุมพลังไฟฟ้าล้วน 100%

BMW i Vision Dee เป็นรถยนต์ซีดาน ขนาดกลาง (Mid-size) ที่มีรูปลักษณ์อันทันสมัย โดยที่ Dee ย่อมาจากคำว่า “Digital Emotional Experience” ที่มุ่งเน้นสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างคน และก็รถยนต์ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น

ชูไฮไลต์ด้วยเทคโนโลยี BMW Head-Up-Display ที่สามารถแสดงข้อมูลต่าง ๆ ทอดยาวตลอด ความกว้างของกระจกบังลมหน้า แทนการใช้จอปกติ ซึ่งบีเอ็มดับเบิลยู บอกว่าเทคโนโลยีดังกล่าว จะถูกนำไปติดตั้ง กับรถยนต์โปรดักชัน ที่ใช้แพล็ตฟอร์ม NEUE KLASSE สำหรับวางขายจริง ตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป

BMW ซีรี่ย์3 พวงมาลัยคนขับ
BMW ซีรี่ย์3 เทคโนโลยีแสดงข้อมูลแบบ HUD

ดังกล่าวทำงานร่วมกับ ระบบสั่งงานแบบ BMW Mixed Reality Slider ที่อาศัยเซ็นเซอร์ บนแผงคอนโซล เพื่อใช้สำหรับในการควบคุมข้อมูลต่าง ๆ ที่ปรากฏบนจอ HUD ผ่านการสัมผัสด้วยปลายนิ้ว ไม่ว่าจะ เป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับการขับขี่, คอนเทนท์ด้านระบบสื่อสาร และก็เทคโนโลยี ความเป็นจริงเสริม หรือ Augmented Reality ฯลฯ

นอกนั้น คนขับขี่แล้วก็ผู้โดยสาร ยังสามารถสัมผัสประสบการณ์ แบบดิจิทัลของ BMW i Vision Dee ได้ตั้งแต่ก่อนขึ้นรถ ผ่านองค์ประกอบทั้งด้านกราฟิก, ไฟส่องสว่าง และก็เสียงเอฟเฟกต์ต่าง ๆ

อย่างเช่น ไฟหน้าแล้วก็กระจังหน้าไตคู่แบบปิดทึบ ถูกพัฒนาให้ มีลักษณะเป็น “Phygital” (เกิดจากการรวมกันของคำว่า Physical รวมทั้ง Digital) ที่มีลักษณะคล้ายหน้าจอ สำหรับโต้ตอบกับมนุษย์ หรือแสดงอารมณ์ในขณะนั้นได้

ตัวถังภายนอกของ BMW i Vision Dee ยังสามารถเปลี่ยนสีได้เองโดยอัตโนมัติ โดยอาศัยเทคโนโลยี E Ink คล้ายกับที่เจอใน BMW iX Flow ซึ่งเคยเปิดตัวในงาน CES 2022 ครั้งที่แล้ว แต่ว่าคราวนี้บีเอ็มดับเบิลยู ได้เพิ่มความสามารถให้ปรับเปลี่ยน สีตัวถังได้ถึง 32 สี

บนพื้นที่ที่ถูกแบ่ง แยกออกเป็นทั้งหมด 240 ส่วน (จากเดิมที่มีเฉพาะสีดำและสีขาว ซึ่งสามารถผสมกัน เปลี่ยนเป็นสีเทาได้อีกหลายเฉด) ส่งผลให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกเปลี่ยนสีได้ ตามใจชอบในเวลาเพียงชั่วอึดใจแค่นั้น

BMW ซีรี่ย์3 ด้านหลัง
ด้านในห้องโดยสารของรถยนต์คันนี้

ยังถูกออกแบบให้ลดการใช้ วัสดุที่ไม่มีความจำเป็น พร้อมกันไปกับการลด จำนวนปุ่มควบคุม แล้วก็ตัดหน้าจอแบบเดิมออกไป ซึ่งบีเอ็มดับเบิลยู ระบุว่าจะช่วยให้คนขับขี่ สามารถสัมผัสกับประสบการณ์ ดิจิทัลได้อย่างเต็มที่ ทั้งยังมาพร้อมพวงมาลัย ออกแบบแปลกตา ที่ติดตั้งก้านแนวตั้ง บริเวณกึ่งกลางของพวงมาลัย

ทำให้เกิดจุดสัมผัส ที่จะเริ่มทำงานก็ต่อเมื่อผู้ขับขี่ใช้ปลายนิ้ว สัมผัสแค่นั้น ทั้งนี้การออกแบบดังกล่าว ยังช่วยสนับสนุนแนวความคิด “มืออยู่บนพวงมาลัย, ตาจ้องไปยังถนน” เพื่อความปลอดภัยสำหรับในการขับขี่สูงสุดนั่นเอง

งานวิศวกรรมสร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรมใหม่ พร้อมแบตเตอรี่ ที่มีความหนาแน่นขึ้น 20% ชาร์จเร็วขึ้น 30% แล้วก็วิ่งไกลขึ้น 30% นอกเหนือจากนั้นในเวอร์ชั่น M ยังมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า ถึง 4 ลูกเพื่อรองรับ แบตเตอรี่แบบ Solid State อีกด้วย

แม้ว่าจะเป็นเพียง รถต้นแบบเท่านั้น แต่ว่ามีความเป็นไปได้สูง ที่รายละเอียดบางส่วน ที่จะนำมาใช้ในรถขายจริง ตามแผนการ NEUE KLASSE ทั้งยังกระจกหน้าต่าง แบบใหม่ จะนำมาใช้ใน i3 รุ่นต่อไป, งานวิศวกรรมที่จะเริ่ม ใช้ใน 3-Series Sedan และ iX3 โฉมใหม่ ได้มีแผนที่ จะผลิตในโรงงานใหม่ Debrecent ประเทศฮังการี ภายในทศวรรษนี้ (ราว ปี 2030) ตามมาด้วยในเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนีในปีถัดไป

ทั้งนี้ มีความน่าจะเป็นไปได้สูงว่า BMW i Vision Dee จะถูกต่อยอดกลายเป็น 3 Series ขุมพลังไฟฟ้า 100% ในอนาคต ซึ่งจะถูกเปิดตัวในปี 2025 ที่จะถึงนี้

BMW ซีรี่ย์3 rainbow
News ข่าวรถยนต์รถยนต์ใหม่เปิดตัว BMW i Vision Dee รถต้นแบบไฟฟ้า แห่งอนาคตในงาน CES 2023

BMW เปิดตัวรถยนต์ต้นแบบ BMW i Vision (BMW i Digital Emotional Interaction Concept Car (Dee)) ในงานมหกรรมรถยนต์ International Consumer Electronics Show (CES) ปี 2023 ซึ่งจัดขึ้นที่ลาสเวกัส ระหว่างวันที่ 5 – 8 เดือนมกราคม 2023

BMW i Vision Dee เปิดตัวหนแรกในโลก โดยใช้แนวคิดการปฏิสัมพันธ์ ทางอารมณ์แบบดิจิทัล BMW i คือ Digital Emotional Experience สร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ และก็ยังชี้ให้เห็นวิสัยทัศน์ของ BMW Group ที่มุ่งมั่นการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า แห่งอนาคต ภายใต้แนวความคิด “less is more”

BMWiVisionDee Concept อีกหนึ่งสีสันของบูธ BMW ด้านในงาน CES 2023 ตัวรถยนต์ได้รับการออกแบบ ในทรงซีดานกล่อง องค์ประกอบการออกแบบ ที่โดดเด่นหลายอย่างของ BMW ที่ได้รับการปรับแต่ง

รวมถึงกระจังหน้ารูปไต ไฟหน้าทรงกลมคู่ และรอยหยักแบบ Hofmeister ล้ออัลลอยสีเขียวขนาดใหญ่ ไฟท้สยแบบ แอลอีดี ดิจิตอล กระจกรอบคันขนาดใหญ่ สร้างมุมมองได้กว้างขึ้น ไร้มือจับประตูด้านนอก

BMW Group เปิดตัวเทคโนโลยี E Ink หรือการเปลี่ยนโทน สีบนผิวตัวถัง โดยสามารถสร้างสี ได้มากถึง 32 สีผ่านฟิล์ม กระดาษอิเล็กทรอนิกส์ ครอบคลุมทั้งตัว รถด้านนอก

ปรัชญาการออกแบบ ที่เรียบง่ายนี้ ยังคงอยู่ในห้องโดยสาร เน้นการใช้งานมินิมอล แต่ว่าจัดเต็มด้วยเทคโนโลยี BMW ได้นำระบบ Head-up Display ขั้นสูงของ BMW มาใช้ พร้อม BMW Mixed Reality Slider ที่สามารถฉายเนื้อหา ให้ครอบคลุมความกว้างทั้งหมด ของกระจกบังลม

สามารถแสดงข้อมูลบนผิวที่ใหญ่ เท่าที่จะเป็นไปได้ กระจกบังลมหน้าจะทำหน้าที่ เป็นอินเทอร์เฟซดิจิทัลเดียว สำหรับการโต้ตอบกับทุกคนด้านในห้องโดยสาร

Adrian van Hooydonk หัวหน้าฝ่ายออกแบบของ BMW Group บอกว่า “BMW i Vision Dee แสดงให้เห็นการออกแบบดิจิทัล ที่เข้ากับชีวิตประจำวัน และก็เป็นเพื่อนร่วมทาง ที่ไว้ใจได้ พร้อมมอบประสบการณ์ ที่คุ้มค่า ทำให้มนุษย์แล้วก็เครื่องจักรใกล้ชิดกันเพิ่มมากขึ้น

BMW i Vision Dee