Friday, 26 July 2024

Prod. by NINO เส้นทางชีวิตจากก้นเหวสู่ โปรดิวเซอร์พันล้านวิว

Highlight NINO เป็นโปรดิวเซอร์ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเพลงดังมากมาย ทั้งเพลง “ทน” ที่ดังไกลถึงชาร์ตบิลบอร์ต และ เพลง “พักก่อน” ของแร็ปเปอร์สาว MILLI
แม้จะประสบความสำเร็จอย่างมากในฐานะโปรดิวเซอร์ แต่ว่าก็เคยผ่านช่วงเวลาที่เหมือนทางตันของชีวิต และ ในวันที่ไม่มีใครยื่นมือมาช่วยเหลือ ทางเดียวที่จะไปต่อได้ คือ การยืนหยัดด้วยตัวเอง
สิ่งสำคัญในการทำเพลงให้ประสบผลสำเร็จ คือ เนื้อหาที่จะนำเสนอ ที่จะส่งออกไปให้คนเข้าใจ และ ฟังแล้วติดหู
ทุกความสำเร็จที่ได้รับ ไม่เคยรู้สึกว่า ตัวเองมาถึงจุดสูงสุดของอาชีพเลย เขา คิดแค่ว่า วันนี้ สามารถช่วยเหลือครอบครัวได้แล้วเท่านั้น

ถ้าถามว่า รู้จัก “NINO – เกริก ชาญกว้าง” ไหม หลายๆคน คงจะขมวดคิ้ว ครุ่นคิดหนักว่า ผู้ชายคนนี้ คือใคร แล้วจะไปรู้จักเขาได้อย่างไร

แต่ถ้าเกิดถามว่า รู้จักเพลง “ทน” เพลงไทยที่ดังไกลถึงชาร์ตบิลบอร์ด และก็ เพลง “พักก่อน” เพลงแร็ปสุดเฟี้ยวของแร็ปเปอร์สาว MILLI บ้างไหม เชื่อว่า ทุกคน อาจพยักหน้า และ คงเคยได้ยินเพลงกลุ่มนี้ผ่านหูมาบ้าง เพลงดังกลุ่มนี้ ถูกสร้างสรรค์โดยในฐานะโปรดิวเซอร์

รวมทั้งอีกหลายร้อยเพลง แล้วก็ ส่วนหนึ่งของผลงานมากมายของเขา ยังกลายเป็นเพลงไวรัลในโลกออนไลน์ จนกระทั่งทำให้ได้รับฉายาว่า “โปรดิวเซอร์พันล้านวิว” ทว่าบนเส้นทางสู่ความสำเร็จนั้น จำเป็นต้องพบเจอกับอุปสรรคมากมาย แต่เวลาที่แสนท้าทาย และ ไม่มีคนไหนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ วิธีเดียวที่จะผ่านพ้นมันไปได้ คือ “ลุกขึ้นสู้ด้วยตัวเอง”

โปรดิวเซอร์ NINO

สู้โชคชะตาด้วยสองมือของตนเอง

“ครอบครัวผม ก็มีฐานะปานกลาง พอมีพอกิน แล้วภายหลังจากได้ไปเรียนที่แคนาดา ก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด จนกระทั่งขั้นที่ครอบครัว 4 คน จำเป็นต้องอยู่ในรถคันเดียว รถที่อยู่ก็ไม่ใช่รถของตนเอง แต่เป็นรถของคุณตาที่เรายืมมา รวมทั้งมาอยู่ข้างในห้องเล็กๆ มีห้องน้ำห้องเดียว” โปรดิวเซอร์ เล่าย้อนไป

จากเด็กหนุ่มผู้ได้ทุนไปเรียนสาขาภาพยนตร์ ไกลถึงประเทศแคนาดา แต่โชคชะตาก็ทำให้จะต้องเผชิญหน้ากับ “ปัญหา” ที่ใหญ่กว่าตนเองจะแก้ไขได้ เขา เล่าว่า เหมือนอนาคตที่เคยฝันไว้พังทลายลงมา และ เขาเองก็คิดไม่ออกว่า จะต้องเดินไปทางไหน คล้ายกับว่า ทุกอย่างเป็นทางตัน

แล้วหลังจากนั้นก็ไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเลย แต่ว่า “ในวันที่พวกเราอยู่ก้นเหว พวกเรา มีทางเดียวที่จะไปต่อได้ คือ เรา จะต้องยืนหยัดด้วยตัวเอง”

“ผมเป็นนักสู้ ผมก็ต้องหาทางที่จะเอาชีวิตรอด แรงบันดาลใจหลักๆเลยก็เป็นครอบครัว คนที่อยู่ในครอบครัวเรานี่แหละ ที่เป็นแรงผลักดันให้เรามีกำลังใจสำหรับการใช้ชีวิตต่อไป คือผมเป็นคนใฝ่ฝันสูง ต้องการมีอะไรเป็นของตนเอง แล้วถ้าเกิดเราไม่ทำ มันก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลง

แต่ถ้าเกิดเราจะไปถึงที่ตรงนั้น เรา ควรจะมีทีมเวิร์กที่ดี หากไม่มีทีมเวิร์กที่ดี กำลังใจก็ไม่มี มันก็บางทีก็อาจจะโดดเดี่ยว” โปรดิวเซอร์ กล่าว

เปียโน

จุดเริ่มต้นอาชีพ “โปรดิวเซอร์” ของ NINO

“พอเราพบทางตัน เรา ก็พยายามจะหาทางออกว่า สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดขณะนั้นคืออะไร ในเวลานั้น มันก็มีนักบอล นักมวย เกมเมอร์ และก็ดนตรี ซึ่งผมว่า ผมเก่งดนตรีมากที่สุด” โปรดิวเซอร์ บอก

เมื่อค้นพบว่า ดนตรี เป็นสิ่งที่ตัวเราเองทำได้ดีที่สุด บวกกับเสียงชื่นชมจากคนรอบข้าง ที่คอยส่งเสริม และให้กำลังใจ

จึงทำให้เริ่มสนใจอาชีพ “โปรดิวเซอร์” ซึ่งเป็นอาชีพที่ยังไม่ค่อยมีคนทำมากนัก ในเวลานั้น และ เรียนรู้การกดบีทจาก YouTube

“โปรดิวเซอร์ ก็คือ คนที่ดูภาพรวมของเพลง คล้ายกับผู้กำกับ เป็นคนที่ดูตั้งแต่จุดเริ่มต้นของเพลง เป็นคนควบคุมโปรเจ็กต์ และก็ช่วยทำให้ศิลปินตัดสินใจได้ดีขึ้น คือเป็นเหมือนผู้ช่วยศิลปินอีกที” โปรดิวเซอร์ อธิบาย

ความสำเร็จของโปรดิวเซอร์ NINO

หลังจากหันมาเอาดีทางด้านดนตรี ชื่อของ NINO ก็เริ่มมีชื่อเสียงเยอะขึ้น จนได้รับฉายา “โปรดิวเซอร์พันล้านวิว” จากผลงานเพลงที่เขาสร้างสรรค์ขึ้นร่วมกับศิลปินมากมาย ทั้งเพลง “พักก่อน” ของ MILLI, เพลง “เป็นไรไหม” ของ LAZYLOXY x OG-ANIC, เพลง “Mirror Mirror” ของ F.HERO MILLI

และ ชางมิน จากวง Stray Kids วงไอดอลชื่อดังจากประเทศเกาหลีใต้ หรือ เพลง “4EVER” จาก 4EVE เกิร์ลกรุ๊ปของไทย ยิ่งไปกว่านี้ ยังมีเพลงอื่นๆ อีกมากมาย ที่เป็นผลงานของ NINO ดูได้จากคำว่า “Prod. by NINO” ที่กลายเป็นคำการันตีประสิทธิภาพของงานเพลง

“แรกๆที่เริ่มมีคนรู้จักผมเยอะขึ้น บน BTS หรือ นั่งวินมอเตอร์ไซค์ และจากนั้นก็มีพี่วินอีกคน หรือ แกร็บ กล่าวว่า “นี่ NINO หรือเปล่า” กลางสี่แยกเลย ก็ตลกดี พี่รู้จักผมด้วยหรอ ก็เริ่มมีคนมาขอถ่ายรูป

และดีใจที่มีคนรู้จักอาชีพโปรดิวเซอร์ของพวกเราด้วย เพราะเหตุว่า น้อยคนที่จะทำอาชีพนี้ แล้วส่วนใหญ่ก็จะรู้จักแต่เบื้องหน้า” โปรดิวเซอร์ กล่าว

เมื่อถามถึงเทคนิคแนวทางการทำเพลงให้ประสบความสำเร็จ เขา บอกว่า ไม่มีเทคนิค แต่ว่าสิ่งสำคัญเป็นเนื้อหาที่จะนำเสนอ ที่จะส่งออกไปให้คนเข้าใจ และ ฟังแล้วติดหู

“พวกเราจริงใจกับสิ่งที่เราจะเสนอออกไปมากน้อยแค่ไหน ที่เหลือก็เป็นคาแรกเตอร์ ผมว่า ความเป็นธรรมชาติ คือ มนุษย์เรามีเซ้นส์ที่จะเดาออกได้ว่า นี่ไม่ธรรมชาติ แต่ว่าอันนี้รู้สึกธรรมชาติว่ะ บางคน คิดว่า พวกผมทำเพลงทน มานั่งแกะนั่งหั่นเพลงทนว่า ทำอย่างไรถึงจะฮิต

แต่ว่าความจริง คือ ทำไม่ถึงชั่วโมง เรา ยังไม่รู้เลยว่า มันดังได้ยังไง ผมว่า อันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ คือ พวกเรา สื่อสารอย่างไร แล้วผู้ฟังเขาเข้าใจกับพวกเรามากน้อยแค่ไหน” โปรดิวเซอร์ ชี้

ก้าวสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่มากกว่าเดิม

แม้จะประสบความสำเร็จ ในฐานะโปรดิวเซอร์ผู้อยู่เบื้องหลังเพลงดังหลายร้อยเพลง แต่ก็ไม่เคยมีความรู้สึกว่า ตนเองมาถึงจุดสูงสุดของอาชีพเลย เขา คิดแค่ว่า วันนี้เขาสามารถช่วยเหลือครอบครัวได้แล้วเท่านั้น และ ตั้งใจที่จะเปิดโอกาสกับคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการเข้ามาโลดแล่นในแวดวงเพลง

นั่นจึงเป็นอีกเหตุผลที่ NINO ในฐานะเจ้าของค่ายเพลง HYPE TRAIN GROUP ตัดสินใจร่วมมือกับ Universal Music Thailand โดยมีเป้าหมายที่จะปั้นศิลปิน และ คนเบื้องหลัง เพื่อสร้างสรรค์ผลงานเพลงที่มีคุณภาพ ออกสู่ผู้ฟังเพลงทั่วโลก

“เปรียบเทียบเราเป็นเหมือนทีมฟุตบอลเล็กๆ ในวันหนึ่ง พวกเรา ต้องการจะมีคนมาส่งเสริมให้พวกเราได้เดินทางออกไปสู่โลกกว้างได้มากขึ้น อย่างยุคนี้เป็นยุคที่ไม่มีอะไรมากั้น ไม่มีกำแพงแล้ว เรา ได้มองเห็นแฟนคลับ ได้เห็นหลายวงไปเล่นต่างประเทศ

เรา ได้เห็นฐานแฟนจากต่างประเทศที่ฟังเพลงของเรา ผมว่า อีกไม่นาน เรา จะมีแฟนเพลงใหม่ๆมากขึ้น มีคอมมูนิตี้ใหม่มากมาย เพื่อมาสนับสนุนศิลปินของพวกเรา การร่วมมือกันในครั้งก็เลยทำให้ผมดีใจมาก” โปรดิวเซอร์ เล่า

“ผมต้องการทดลองอะไรไปเรื่อยๆ เหตุผลนี้แหละที่ทำให้ผมเปิดค่ายเพลงเพิ่ม แล้วในอนาคต ก็บางทีก็อาจจะเปิดค่ายเพิ่มอีก เพื่อทดลองอะไรใหม่ๆ ทดลองหลายๆแนว หาศิลปินแนวใหม่ ให้คนไทยได้ฟัง ผมว่า อันนี้ก็เป็นพื้นที่ของผมอยู่แล้ว” โปรดิวเซอร์ กล่าวปิดท้าย